Midnight Mass (TV Mini Series 2021)

Midnight Mass (TV Mini Series 2021) | A-
Creator: Mike Flanagan
Genres: Drama | Fantasy | Horror | Mystery

“จากเถ้าสู่เถ้า จากธุลีสู่ธุลี”

ความน่ากลัวเกี่ยวกับความเชื่อทางศาสนาคือการทำในสิ่งที่ผิดพลาดให้ถูกต้อง ทุกคำสอนทุกการตีความล้วนมีการวิเคราะห์สองแง่สองง่ามเป็นประจำ หากทำดีย่อมได้ดี แต่ไม่ได้จำกัดไว้ถึงความดีที่อาจผิดอย่างมากก็ได้ โดยเฉพาะความงมงายที่เชื่ออย่างไม่สนผลกระทบที่ตามมาจริงๆ


เกาะคร็อกเกต คือเกาะเล็กๆที่มีประชากรเพียงน้อยนิดอยู่ร่วมกันราวกับครอบครัวที่มักหน้าคุ้นตากันอย่างดี จนกระทั่งการกลับมาของ ไรลี่ย์ ฟลินน์ (Zach Gilford) ชายหนุ่มที่เคยไปใช้ชีวิตนอกเกาะจนเกิดอุบัติเหตุชนคนเสียชีวิตเพราะอาการมึนเมา ทำให้จำคุกเป็นเวลา 4 ปี และพร้อมทำทุกอย่างเพื่อไถ่โทษความผิดของตัวเอง ซึ่งเขาไม่ได้ทำเพราะเป็นบาปต้องชดใช้ แต่เป็นสำนึกความเสียใจที่พรากชีวิตคนอื่นไป

ไรลี่ย์ ใช้เวลาในคุกในการทำอะไรหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือการอ่านหนังสือศาสนาที่มีมากมายหลายศาสนา ซึ่งทำให้เกิดความเข้าใจอย่างหนึ่งเกี่ยวกับศาสนาคือพระเจ้าไม่มีอยู่จริง มองไปทางไหนจะพบแค่ตัวเองที่ดำรงอยู่เท่านั้น เหตุผลนี้ทำให้เปลี่ยนตัวเองที่เคยเป็นชาวคริสเตียนเป็นชาวอเทวนิยม (Atheist) ที่เชื่อในกฎธรรมชาติ


ต่อมามีบาทหลวงนามว่า พอล (Hamish Linklater) มาแทนที่มงซินญอร์พรูอิตต์ โดยให้เหตุผลว่ามีอาการป่วยทำให้ติดการรักษาอยู่แผ่นดินใหญ่สักระยะ ซึ่งการมาของเขาเริ่มต้นพิธีมิสซาหรือศีลมหาสนิท (Mass) แจกจ่ายไวน์และขนมปังให้กับชาวบ้านที่ร่วมพิธี เพื่อให้การมาครั้งนี้เสมือนได้รับพระโลหิตและพระวรกายจากพระเจ้ามาสถิตภายในกายเป็นอันหนึ่งเดียวกัน
 
ทว่าคนร่วมพิธีหรือเข้าโบสถ์มีจำนวนน้อยมาก ทำให้ต้องหาความศรัทธาเรียกทุกคนกลับมาให้ได้ ดังนั้นต้องแสดงปาฏิหาริย์ด้วยการทำให้คนที่เคยพิการนั่งรถเข็นกลับมาเดินได้อีกครั้ง หรือคนที่เคยชราภาพลุกยืนแทบไม่ไหวกลับมาเดินสบายใจเฉิมและดูเยาว์วัยอย่างน่าตกใจ


เมื่อทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เกิดขึ้นต่อหน้าใครหลายคน ทำให้คนที่เห็นกลับมาศรัทธาในพลังของพระเจ้าอีกครั้งและเริ่มเข้าโบสถ์รับฟังคำสอนอย่างหนาแน่น การทำพิธีมิสซาหรือศีลมหาสนิท (Mass) กลับมาคึกคักจากแรงกล้าของทุกคนที่เชื่อมั่นในพระเจ้า ทว่าปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นมีเงื่อนงำที่ซ่อนความจริงเอาไว้ ซึ่งทำให้ ไรลี่ย์ และอีกบางคนที่เชื่อมั่นในวิทยาศาสตร์และความเป็นไปในธรรมชาติต้องตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้

ข้อควรระวังอย่างหนึ่งคือการเล่าเรื่องที่ค่อยเป็นค่อยไปอย่างมาก หรือจะเรียกว่า Slow Burn ที่ไม่มีการกระตุ้นเร้าให้ตื่นตัว ทุกอย่างผ่านไปอย่างช้าๆพร้อมกับคำถามมากมาย ไม่ใช่ซีรีส์ที่เหมาะกับทุกคนที่อยากได้อะไรเร็วๆหรือเข้าใจง่าย ดังนั้นดูตอนแรกด้วยความรู้สึกน่าเบื่อก็อาจต้องรู้สึกเช่นนั้นยาวๆอีก 4 ตอนก่อนถึง 2 ตอนสุดท้ายที่ทุกอย่างกลายเป็นหายนะของคนทั้งเกาะ


การเล่าเรื่องจะเน้นการสนทนาเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องตั้งใจดูและรับฟังตลอดเวลา ยิ่งทุกครั้งที่เกิดคำถามจะต้องตั้งใจฟังคำตอบจากความคิดที่แตกต่าง ซึ่งมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็น ความน่าดูไม่ใช่เพราะเป็นแนวสยองขวัญที่มีศาสนามาเกี่ยวข้อง หากเป็นการวิพากษ์ถกเถียงกันด้วยความคิดและสามัญสำนักของคนๆนั้น ซึ่งมีทั้งเห็นชอบจนไปถึงขั้นเกลียดกันเลยทีเดียว

แม้ทุกอย่างจะดูช้าเพราะมีแต่คุยกันอย่างเดียวเกือบทุกตอน ทว่านี่คือการเข้าถึงตัวละครที่ลึกซึ้งอย่างมาก ทุกคนพูดอย่างตรงไปตรงมาและมีแนวคิดของตัวเอง ทำให้เจอความคิดมากมายที่ชวนให้ฉุกคิดเสมอ เช่น หลังจากตายจะเกิดอะไรขึ้น เกิดมาแล้วทำไมกำหนดศาสนาให้เลยทั้งที่ควรรอก่อน คำสอนไหนของศาสนาที่ถูกต้องมากที่สุด และอีกมากมายที่อัดแน่นด้วยปัญหาให้ไตร่ตรองทบทวน รวมไปถึงสัญลักษณ์ต่างๆที่ทำให้พล็อตง่ายๆเต็มไปด้วยรายละเอียดนับไม่ถ้วน


บรรยากาศมีทั้งผ่อนคลายและตึงเครียด ยิ่งบางอย่างเกิดขึ้นยิ่งสร้างความสงสัย ไม่แปลกใจที่การเล่าเรื่องเต็มไปด้วยคำถามและการพูดคุย เนื่องจากกลั่นกรองมาจากประสบการณ์ตรงของผู้กำกับ Mike Flanagan ที่มีความคลางแคลงใจเกี่ยวกับศาสนาและพระเจ้า บางอย่างน่าเชื่อถือได้ แต่บางอย่างน่ากลัว หากพระเจ้าสร้างปาฏิหาริย์แล้วปีศาจสร้างได้บ้าง แล้วสิ่งใดคือความแตกต่าง แค่ฟังบทสนทนาที่ผ่านกระบวนการความคิดก็สนุกจนไม่น่าเชื่อว่าความน้อยแต่ได้มากจะทรงพลังขนาดนี้

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)