Extraction II (2023) คนระห่ำภารกิจเดือด 2

Extraction II (2023) | คนระห่ำภารกิจเดือด 2 | B+
Director: Sam Hargrave
Genres: Action | Thriller

ภาคแรกจบไปแบบนั้นจะมีภาคต่อได้ไหม คำตอบในตอนนี้คือมีได้และเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่มีชีวิตรอดกลับมาและฟื้นตัวจนครบสามสิบสอง แต่ใครจะห้ามได้เพราะเป็นบทพระเอกที่ Chris Hemsworth เล่นได้มันส์และเดือดกันสุดๆ


ไทเลอร์ เรก (Chris Hemsworth) กลับมาฟื้นตัวจนแข็งแรงหลังจากสะบักสะบอมในภารกิจภาคแรก ตอนนี้ได้ภารกิจใหม่เข้าช่วยเหลือแม่ลูกที่ถูกขังเอาไว้ในคุกจอร์เจีย แม้ภารกิจจะไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด ทว่าการชิงตัวได้สร้างอุปสรรคเพิ่มขึ้นเพราะเกี่ยวโยงถึงกลุ่มมาเฟียค้ายาที่มีจำนวนคนและอาวุธครบมือ

ความต้องการขายแอ็คชั่นจึงเดินเรื่องให้เร็วและใส่เหตุผลที่ง่ายๆแบบมัดมือชก คนที่ต้องเข้าไปช่วยเหลือมีความสัมพันธ์เป็นน้องเมีย แม้ปัจจุบันได้เลิกรากับเมียแล้ว แต่ด้วยความผูกพันทางครอบครัวจึงต้องเข้าไปช่วยอย่างสุดความสามารถ



สำหรับฉากทำภารกิจช่วยเหลือจะมีช่วงเวลาที่ต่อเนื่องและไหลลื่นมากๆ รู้สึกได้ถึงคิวบู๊และการเรียบเรียงที่ไม่สะดุด โดยเฉพาะการมีช่วงเวลาของฉาก Long Take ที่เป็นจุดขายอย่างหนึ่งของภาคแรก แต่ภาคนี้ยังนำมาใช้ด้วยเช่นกัน อีกทั้งบรรยากาศและอารมณ์ชวนให้นึกถึงเกม Call of Duty ที่ใช้ทรัพยากรอุปกรณ์ได้หลากหลายมากๆ

เรื่องแอ็คชั่นคือลุ้นและมันส์มาก แม้จะมีความเว่อร์วังเกี่ยวกับความอึดที่เหนื่อยยากและมีความอดทนสูงมาก แต่ปฏิเสธไม่ได้ที่คราวนี้มีทีมเข้าช่วย ซึ่งประกอบไปด้วยนิก (Golshifteh Farahani) และ แยซ (Adam Bessa) สองพี่น้องที่บทบาทภาคแรกพอให้เห็นหอมปากหอมคอ ทว่าภาคนี้จัดหนักจัดเต็มตั้งแต่เริ่ม โดยเฉพาะความทรหดที่สู้แล้วสู้อีกไม่น้อยหน้าบทพระเอก



แม้จะหนักมือเรื่องแอ็คชั่นที่เหมาะกับการเปิดลำโพงฟังเสียงปืนและระเบิด แต่เรื่องมิติตัวละครไม่ขาดหาย มีการใส่รายละเอียดได้กำลังดี ทำให้รู้ว่าภารกิจนี้เป็นมากกว่าการช่วยเหลือ มีการพูดถึงในมุมมองต่างๆ เช่น ความสัมพันธ์แฟนเก่า ความผูกพันของทีม ปมอดีตที่ภาคแรกยังไขกระจ่างไม่หมด

ค่อนข้างชอบหลายอย่างเกือบหมด โดยเฉพาะความสัมพันธ์บางอย่างระหว่างไทเลอร์กับนิกที่เป็นมากกว่าเพื่อนร่วมรบ ซึ่งมีฉากเข้าช่วยและพูดคุยราวกับทั้งสองมีความลึกซึ้งต่อกัน แต่ด้วยสถานะและสถานการณ์จึงเป็นได้แค่นั้น

อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบและคิดว่าพอรับไหว แม้จะบ้าบิ่นหลายครั้งหลายคราว นั่นคือความโม้ที่ยอมรับว่าบทพระเอกคือคนเก่ง แต่บางฉากลุยกันแบบโต้งๆ จนขัดใจที่ตัวร้ายต้องมาเจออะไรแบบนี้ อย่างน้อยแลกกับฉากแอ็คชั่นมันส์ๆ ที่บู๊สะบั้นหั่นแหลก หลังจากนี้คือรอภาคถัดไปที่ปูทางให้เรียบร้อย

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)