บ้านเช่า บูชายัญ (2023)

บ้านเช่า บูชายัญ (2023) | B+
Director: โสภณ ศักดาพิศิษฏ์
Genres: Horror | Mystery | Thriller

ตอนแรกแอบบ่นในใจนิดนึง เพราะเล่าเรื่องไปไกลมากแล้วยังจับต้นชนปลายไม่ถูก มีแต่ปริศนาที่ชวนให้ตั้งคำถามไว้มากมาย ทำไมเหตุการณ์ถึงเป็นเช่นนั้น มีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่ ทำไมคนในครอบครัวไปมีส่วนเกี่ยวพันธ์ได้ พิธีกรรมทำเพื่ออะไร ทั้งหมดคือความรู้สึกที่ไม่ได้ดูตัวอย่างหนังและไม่รู้อะไรเลยนอกจากชื่อหนังเท่านั้น จนกระทั่ง...


“เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ”

จนกระทั่งมีฉาก Flashback ที่เล่าถึงแรงจูงใจและคำตอบทุกอย่างที่เกิดขึ้น ซึ่งก่อนหน้านั้นจะมุ่งไปที่หนิงหรือแม่ที่ไม่รู้อะไรเลย สำหรับตัวละครนี้เสมือนคนดูที่ต่างรู้เท่ากัน แม้ไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นชัดเจน แต่สิ่งที่รับรู้ได้คือสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ รวมถึงความผิดปกติที่ยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ ทำให้ต้องพาอิงหรือลูกสาวหนีให้ไกลเพื่อพ้นจากอันตราย

เมื่อเรื่องของหนิงมาถึงจุดตัด ต่อไปคือการเฉลยความจริงด้วยการ Flashback ไปถึงจุดเริ่มต้นของกวินหรือพ่อที่ทำไปด้วยสาเหตุอะไร ซึ่งในมุมมองของหนิงคือคนที่น่ากลัวและยิ่งอยู่ยิ่งอันตราย แต่พอเป็นมุมของตัวเองกลายเป็นตัวละครที่เหมือนคนทั่วไป แค่มีปมฝังใจเรื่องจ๋าหรือลูกสาวคนก่อนจะคบกับหนิงและมีลูกสาวด้วยกัน


ปมในใจที่ต้องเสียลูกสาวทำให้เสียกำลังใจ แต่การเจอหนิงทำให้มีลูกสาวด้วยกัน แม้ชีวิตจะถูกทดแทนและทำให้ดีขึ้น ทว่ากวินบังเอิญเห็นอิงคุยกับจ๋าเพราะไม่คิดว่าจะมีสัมผัสที่หก ทำให้ปมที่ถูกปิดได้เปิดและกลับมาคิดถึงจ๋าอีกครั้ง

ความคิดถึงลูกสาวที่เสียชีวิตไปและอยากเจออีกครั้ง ทำให้เข้าลัทธิที่เชื่อว่าจะช่วยให้จ๋าได้กลับมา ซึ่งแลกกับการใช้ร่างกายของอิงเป็นภาชนะบรรจุร่าง โดยอ้างว่าร่างกายสามารถมีวิญญาณมากกว่าหนึ่งดวงได้ หลังจากนั้นจึงยอมทำทุกอย่างเพื่อเจออิง

ทำไมการมีครอบครัวใหม่ยังไม่ช่วยให้กวินลืมเรื่องในอดีตและต้องการเจออิง นั่นเพราะการเสียชีวิตของอิงมาจากกวินที่ซ่อมเครื่องทำน้ำอุ่นไม่ดีพอ ทำให้เกิดอุบัติเหตุและคิดว่าส่วนหนึ่งมาจากตัวเอง จนกระทั่งการมาของหมอราตรีที่มาขอเช่าบ้านและทักเรื่องในอดีตจนกวินขอร้องให้ช่วยทำพิธี


แม้เรื่องภายในครอบครัวจะไม่มีการลงลึกสักเท่าไรนัก แต่ด้วยพฤติกรรมทำให้เห็นสภาพการเงินและสังคมที่มีปัญหา เช่น การสมัครงานของหนิงที่ประเมินเงินเดือนในใบสมัครไว้สูง ก่อนจะเปลี่ยนใจเพราะคู่แข่งกรอกเงินเดือนน้อยกว่า, การย้ายไปอยู่คอนโดทั้งที่มีบ้านจากการเดินทางที่ใกล้กว่า และช่วงเวลาทำงานของหนิงกับกวินที่ไม่สอดคล้องกัน ทำให้หนิงนอนกับลูกได้ แต่กวินต้องนอนนอกห้อง เป็นต้น

อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างหนิงกับกวินยังไม่แน่ชัดว่ารักแค่ไหน การมีลูกสาวด้วยกันอาจเป็นความต้องการของกวินเพื่อมาแทนจ๋า แต่อาจแทนไม่ได้ทุกอย่างทำให้เป็นจุดเปราะบางของปมที่เคยเลี้ยงด้วยตัวคนเดียว

การวางปมตัวละครทีแรกยังไม่แน่ใจว่าทำไปทำไม การเล่าเรื่องเห็นเพียงการขโมยเด็กเพื่อไปทำพิธีกรรมบางอย่าง จนได้เห็น Flashback ทำให้มีมิติที่เข้มข้นอย่างมาก ซึ่งไม่ใช่แค่ครั้งเดียวหรือตัวละครเดียว แต่ยังให้ Flashback ซ่อน Flashback เข้าไปอีกที ประหนึ่งหนังจารกรรมที่ชิงไหวพริบ ซึ่งคนที่กุมความลับทั้งหมดคือหมอราตรี


ไม่เชิงว่าหักมุมซะทีเดียว แต่เป็นการขยายปริศนาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ในจังหวะที่ขีดสุด ทำให้การไม่รู้เปลี่ยนเป็นรู้ในทันที หากเทียบกับการรู้อยู่ก่อนจะไม่สนุกเลย มิหนำซ้ำอาจเป็นหนังสยองขวัญที่มีพล็อตธรรมดา 

ชอบความเล่าเป็นเส้นตรงก่อนจะย้อนเวลา ซึ่งย้อนเรื่องราวมากกว่าหนึ่งบุคคล ทำให้เห็นมิติตัวละครที่เข้ามาตบหน้าให้ตื่นจากภวังค์ทันที แค่อาจขัดใจเล็กน้อยที่มีการใช้ CGI บางฉากที่ไม่เนียนเอาเสียเลย แต่เรื่องบรรยากาศ สถานที่ และมุมกล้อง มีความสะดุดตาและสมจริงพอสมควร

นับว่าเป็นหนังที่น่าแนะนำอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะนักแสดง เช่น ศุกลวัฒน์ คณารศ รับบทเป็นกวิน จากตัวละครปริศนาที่แสนน่ากลัวกลายเป็นตัวละครน่าเห็นใจ, นิษฐา จิรยั่งยืน รับบทเป็นหนิง หรือนางแบกของเรื่องที่รู้น้อยที่สุด กว่าจะเข้าใจทั้งหมดแทบไม่ต่างกับคนนอกที่เจ็บปวดที่สุด

แล้วที่โดดเด่นที่สุดคือเพ็ญพักตร์ ศิริกุล รับบทเป็นราตรี ที่มีคาแรคเตอร์สะดุดตาจนเรียกว่าเท่และน่าสะพรึงในเวลาเดียวกัน จากตัวละครที่ดูร้ายอยู่แล้วกลับยิ่งร้ายเข้าไปอีกเมื่อรู้ความจริง ถ้าไม่เชื่อให้ลองดูจะรู้ว่าคนที่หวังดีคือคนที่ร้ายกาจที่สุด

รูปภาพของฉัน
เกิดปี 2538 (1995) แค่คนที่เรียนจบสาธารณสุขศาสตร์ แต่ชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ที่เขียนรีวิวเพราะอยากแบ่งปันความรู้สึกที่ตัวเองมีให้อ่าน และกำลังทำช่อง YouTube เกี่ยวกับหนังสือ(การ์ตูนเป็นหลัก)